หน้าหลัก
โครงการ
ข่าวสาร
บทความ
กรรมการ
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อ
หน้าหลัก
โครงการ
ข่าวสาร
บทความ
กรรมการ
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อ
Muaythai Master Class 2025 โรดโชว์มวยไทย เมืองโวคกิง ประเทศอังกฤษ
3 May 2025
ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งประเทศสำหรับโครงการมวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 (Master Class Muay Thai Soft Power) ซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่าง THACCA-Thailand Creative Culture Agency โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา และ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ล่าสุดยกทีมไปจัดโครงการที่เมืองโวคกิง ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ซึ่งถือเป็นการจัดโครงการเป็นครั้งที่ 3 ต่อจากฮ่องกง และบราซิล
การไปจัดโครงการ Muaythai Master Class 2025 ครั้งนี้มี ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยและประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา มาเป็นประธานพิธีเปิดการจัดกิจกรรม Muaythai Master Class โดยมี นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน, หลุยส์ โมราเลส นายกเทศมนตรีเมืองโวคกิง, นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา, นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายธีรเดช ถิรพร ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ, นภาพร ผิวอ่อน ผู้อำนวยการกองจัดทำงบประมาณด้านสังคม 4 และ นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
กระแสตอบรับล้นหลาม ยอดเข้าชมทะลุ 400 คน ฉลองความสัมพันธ์ไทย-อังกฤษ 170 ปี
กิจกรรมครั้งนี้มีนักมวยไทยชื่อดัง 3 คนคือ แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, นำศักดิ์น้อย ยุทธการกำธร และ นาบิล อานาน มาเปิดคลาสมวยไทยให้ชาวอังกฤษที่สนใจลงทะเบียนเข้ามาเรียน โดยสอนตั้งแต่พื้นฐานการชกมวยไทยที่ถูกต้อง, การออกอาวุธ และเทคนิคส่วนตัวต่างๆของแต่ละคน ทำให้บรรยากาศของกิจกรรมเป็นไปอย่างสนุกสนาน และได้รับความสนใจมาร่วมคลาสมวยไทยเป็นจำนวนมากกว่า 400 คน
ผศ.พิมล ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา กล่าวว่า โครงการมวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 ที่อังกฤษ ถือเป็นครั้งที่ 2 เพราะเราเคยมาเมื่อปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้ท่านทูตบอกเป็นการฉลองครบรอบความสัมพันธ์ 170 ปี ไทยกับอังกฤษด้วย เราจึงกลับมาอีกครั้ง ซึ่งตอนที่รับสมัคร เราต้องการแค่ 300 คน แต่คนสมัครจริง 400 กว่าคน มีทั้งชาวอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และนักมวยที่มาสอนก็เป็นระดับตำนานทั้งสิ้น
“…สิ่งที่เราได้จากงานนี้คือ การกระจายซอฟต์เพาเวอร์ให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสวัฒนธรรมไทย, ศิลปะไทย และมวยไทย ก่อนหน้านี้ได้คุยกับคนที่มาเข้าร่วมหลายคนทั้งเด็กชาย-หญิง พบว่าเดี๋ยวนี้ เด็กหลายคนห้อยพระเครื่องไทย เช่น พระสมเด็จฯ ก็เลยถามว่านับถือพุทธหรือ ซึ่งเด็กบอกว่าไม่ใช่ เขาแค่ชอบความเป็นไทย, ชอบมวยไทย และศาสนาพุทธ หลายคนบอกว่าจะไปเมืองไทยต่อ เพราะได้สัมผัส ได้แรงบันดาลใจ จึงอยากไปเรียนมวยไทย ซึ่งเมื่อไปถึงก็จะกิน, ช้อป, สารพัด และคนที่ไปเรียนมวย ไม่ได้ไปแค่ 3 วัน 5 วัน แต่ไปอยู่เป็นเดือน และมาทั้งครอบครัว แถมยังไปเล่าต่อให้เพื่อนฟังอีก นี่จึงถือเป็นซอฟต์เพาเวอร์ของมวยไทยอย่างแท้จริง…”
นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมกิจกรรมนี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีมากในปีที่เราเฉลิมฉลองครบรอบ 170 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยกับสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่เริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกันเมื่อปี ค.ศ. 1855 ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศก็เป็นไปด้วยดี ทำให้มีชาวอังกฤษไปไทยเกือบ 1 ล้านคนต่อปี และมีชุมชนไทยในอังกฤษก็หลายหมื่นคน มวยไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยน มีคนอังกฤษจำนวนมากที่ไปดูมวยไทยที่ราชดำเนินหรือลุมพินี และกลับมาก็สนใจเรียนรู้เพิ่มเติม การจัดมาสเตอร์ คลาส เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ดี
ด้านนายฤทธิจักร แก้วสัมฤทธิ์ อดีตยอดนักมวยไทย ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นครูมวย และได้เดินทางมาสอนมวยที่อังกฤษหลายปี ตอนนี้สอนประจำอยู่ที่ค่าย Keddles Gym เปิดเผยว่า สอนที่ค่ายนี้มา 5 ปี แต่ย้ายมาอยู่อังกฤษ 12 ปี คนมาเรียนเยอะ แต่ตนเองเป็นคนไทยคนเดียวที่สอนที่นี่ จึงอยากให้ กกท. สนับสนุนเรื่องการให้วีซ่า ทั้งคนที่นี่ไปเรียนที่ไทย และช่วยเรื่องเวิร์คเพอร์มิตของครูมวยคนไทยที่จะมาสอนที่นี่ เพราะที่อังกฤษคนชอบมวยไทยมาก เด็ก 5-6 ขวบ เรียนมวยไทยกันเยอะ แต่ที่นี่ต้องการครูมวยไทย ซึ่งตอนนี้หายากมาก มีแค่ 10-12 คนในอังกฤษ เขาอยากเรียนรู้โดยตรงกับคนไทย ถ้า กกท.สามารถรับรองได้ จะเป็นเรื่องดีมาก มีครูมวยไทยในอังกฤษมากขึ้น
รับรองมาตรฐาน 10 ค่ายมวยไทยในอังกฤษ สร้างรายได้ ขยายซอฟต์พาวเวอร์
นอกจากนี้ยังมีการมอบป้าย Standard Muaythai Gyms 2025 (SMG) ให้กับค่ายมวยไทยในประเทศอังกฤษ ที่ผ่านมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จำนวน 10 แห่ง และมีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การอำนวยความสะดวก และให้คำแนะนำเพื่อดำเนินการขอวีซ่าเรียนมวยไทย แบบ Non-Immigrant Visa รหัส ED 90 Day และวีซ่า Muaythai DTV (Destination Thailand Visa) 180 วัน โดยกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นช่องทางในการสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวอังกฤษลงทะเบียนเดินทางมาเรียนมวยไทยในค่ายมวยมาตรฐานของประเทศไทย เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สู่การเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ และเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศต่อไป
ขณะเดียวกันนางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย พร้อมด้วยนายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และนายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ได้เดินทางไปเยี่ยมชมค่ายมวยในกรุงลอนดอน ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจำนวน 4 ค่าย คือ Sakchai Camp, Jttmuaythai Gymbrixton, Keddles Gym และ Lumpinicrewley พร้อมทั้งได้มอบป้าย Standard Muaythai Gym หรือ SMG เพื่อเป็นการรับรองการผ่านมาตรฐานยิมมวยไทย
ชูกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยว เล็งเจาะตลาดรายประเทศผ่านมวยไทย
โดยปีนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย มีเป้าหมายจะทำเพิ่มจากปีที่แล้ว ที่ได้งบประมาณซอฟต์พาวเวอร์มาปลายปี แต่ปีนี้ได้ใช้เต็มปี ต้องการไปดูการเติบโตในทั่วโลก และอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วค่ายมวยที่ได้มาตรฐานทั่วโลกมีมากแค่ไหน และต้องเติมการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง เราในฐานะคนไทยที่เป็นเจ้าของมวยไทย เราต้องมาต่อยอดทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งต่างประเทศถือว่าสำคัญ เพราะเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ ที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ไทยด้วย เพราะเขาเรียนมวยในเมืองเขา ทุกคนมีเป้าหมายอยากไปที่เมืองต้นกำเนิดก็คือเมืองไทย และเวลาไปเมืองไทย เขาไม่ได้ไปคนเดียว ไปทั้งครอบครัวหรือไปทั้งคณะเพื่อนๆทั้งค่าย เป็นการต่อยอดทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยด้วย ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน เช่น ฮ่องกง คนเล่นกีฬาเพื่อออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี จะเห็นได้ว่าที่ฮ่องกงจะมาทั้งครอบครัว เป็นเด็ก เป็นผู้หญิง ผู้ชาย แต่ที่บราซิลกับอังกฤษ เป็นการต่อยมวยอย่างจริงจังเพื่อเป็นนักมวย ไปแข่งในสนามยิมหรือสนามมาตรฐานในเมืองไทย ซึ่งก็ดี เพราะมวยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ 1. การแข่งขัน เช่นราชดำเนิน, ลุมพินี, วัน แชมเปี้ยนชิพ 2. การป้องกันตัว และ 3. ที่ตอนนี้มาแรง และคนเล่นเยอะสุดคือการออกกำลังกาย ต่อยมวยเพื่อสุขภาพ ทำให้ได้เล่นกีฬา และสุขภาพดีขึ้น
“…สิ่งที่ค่ายต้องการคือวีซ่า ซึ่ง กกท. ทำแล้ว ตอนนี้สำนักงานมวยทำเรื่องขอวีซ่าเพื่อเข้ามาเรียนมวย 180 วัน และต่อได้อีก 1 ปี เพราะมวยต้องเรียน 25 ชั่วโมง ถึงจะครบคอร์สและได้ใบรับรอง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ดังนั้นใครจะไป ก็ต้องไปอย่างน้อย 1 เดือน อย่างที่ 2 คือต้องการองค์ความรู้เรื่องมวยที่ถูกต้องซึ่งตอนนี้สำนักงานมวยกำลังทำให้เป็นมาตรฐานมวยไทยเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในเมืองไทย เรียกว่า เนชั่นแนล มวยไทย คือจะเป็นสแตนดาร์ดเดียวกัน ทั้งผู้ฝึกสอน, นักกีฬา, ผู้ตัดสิน, ค่ายมวย, ผู้จัด ทุกอย่างเกี่ยวกับมวยให้มีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งไทย และต่างประเทศต้องนำไปใช้ บางประเทศเช่น ฮ่องกง พื้นที่เล็ก ดังนั้นอาจไม่เต็มรูปแบบ แต่ก็ครบมาตรฐาน แต่บางประเทศอย่าง อังกฤษ จะเห็นว่าเหมือนค่ายที่ไทยเลย ดังนั้น เมื่อไปมา 2-3 ประเทศก็ค่อนข้างพอใจ…” รองผู้ว่าการ กกท.กล่าวทิ้งท้าย
#sport
ข้อตกลงและเงื่อนไข
นโยบายความเป็นส่วนตัว
สงวนลิขสิทธิ์สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)
สงวนลิขสิทธิ์
สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)