นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งข่าวดีคนในวงการภาพยนตร์ว่า “เราจะเพิ่ม Cash Rebate ให้กองถ่ายต่างประเทศที่จะมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศ จาก 20% เป็น 30% และไม่มีกำหนดเพดานการคืนเงินสดในครั้งนี้ด้วย”
หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงรับรอง 7 บริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการภาพยนตร์สหรัฐฯ ที่ลอสแอนเจลิส เมื่อวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2567 โดยมี Charles H. Rivkin ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ กับทีมผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทภาพยนตร์ชั้นนำของสหรัฐฯ เข้าร่วมงาน
นายกฯ กล่าวว่า “การให้ Cash Rebate จะเป็นการสร้างมาตรการสำคัญที่จะดึงดูดผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศให้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยมากขึ้น” จากเดิมในปีที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ต่างประเทศมาถ่ายทำในประเทศไทยมากถึง 450 เรื่องจาก 40 ประเทศ
สร้างรายได้ 190 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 7,000 ล้านบาท และคาดหวังว่ามาตรการสิทธิฯ นี้จะสร้างรายได้ให้ประเทศไทยจากการมาถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มขึ้นถึง 10,000 ล้านบาทในปีหน้า
ในงานเลี้ยง Charles H.Rivikin ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ และมีธุรกิจสตรีมและบันเทิงในเครือข่าย เช่น Netflix, Disney, HBO กล่าวชื่นชมนโยบายของรัฐบาลไทยว่า นโยบายนี้ทำให้ประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในภูมิภาค และรู้สึกตื่นเต้นมากหากจะได้ร่วมงานกับประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทผลิตภาพยนตร์เข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย มีการอัดฉีดเม็ดเงินสู่เศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉลี่ยประมาณ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน และยังช่วยถ่ายทอดความรู้ในการถ่ายทำภาพยนตร์และสร้างงานให้กับท้องถิ่นได้อีกด้วย
สำหรับกองถ่ายภาพยนตร์ของไทยที่ถ่ายทำในประเทศเอง นายกฯ โพสต์กล่าวไว้ว่า “เรากำลังศึกษา Cash Rebate สำหรับกองถ่ายไทยด้วยเช่นกัน และจะผลักดันมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำด้านอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวก ลดอุปสรรค พร้อมทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เข้มแข็งต่อไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ฯ จะทำงานอย่างเต็มที่”
ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทภาพยนตร์ทั้ง 7 บริษัท ที่ได้ร่วมพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ในงานเลี้ยงรับรอง ได้แก่
Tags: film