🎥 💵 เพิ่มเงินคืนกองถ่ายต่างประเทศ 30% สร้างแรงจูงใจใช้ไทยทำหนัง สร้างรายได้ 10,000 ล้านเข้าประเทศ 💸

🎥 💵 เพิ่มเงินคืนกองถ่ายต่างประเทศ 30% สร้างแรงจูงใจใช้ไทยทำหนัง สร้างรายได้ 10,000 ล้านเข้าประเทศ 💸

DATE 14 พ.ย. 2024
 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งข่าวดีคนในวงการภาพยนตร์ว่า “เราจะเพิ่ม Cash Rebate ให้กองถ่ายต่างประเทศที่จะมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศ จาก 20% เป็น 30% และไม่มีกำหนดเพดานการคืนเงินสดในครั้งนี้ด้วย”

หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงรับรอง 7 บริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการภาพยนตร์สหรัฐฯ ที่ลอสแอนเจลิส เมื่อวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2567 โดยมี Charles H. Rivkin ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ กับทีมผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทภาพยนตร์ชั้นนำของสหรัฐฯ เข้าร่วมงาน

นายกฯ กล่าวว่า “การให้ Cash Rebate จะเป็นการสร้างมาตรการสำคัญที่จะดึงดูดผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศให้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยมากขึ้น” จากเดิมในปีที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ต่างประเทศมาถ่ายทำในประเทศไทยมากถึง 450 เรื่องจาก 40 ประเทศ

สร้างรายได้ 190 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 7,000 ล้านบาท และคาดหวังว่ามาตรการสิทธิฯ นี้จะสร้างรายได้ให้ประเทศไทยจากการมาถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มขึ้นถึง 10,000 ล้านบาทในปีหน้า

ในงานเลี้ยง Charles H.Rivikin ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ และมีธุรกิจสตรีมและบันเทิงในเครือข่าย เช่น Netflix, Disney, HBO กล่าวชื่นชมนโยบายของรัฐบาลไทยว่า นโยบายนี้ทำให้ประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในภูมิภาค และรู้สึกตื่นเต้นมากหากจะได้ร่วมงานกับประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทผลิตภาพยนตร์เข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย มีการอัดฉีดเม็ดเงินสู่เศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉลี่ยประมาณ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน และยังช่วยถ่ายทอดความรู้ในการถ่ายทำภาพยนตร์และสร้างงานให้กับท้องถิ่นได้อีกด้วย

สำหรับกองถ่ายภาพยนตร์ของไทยที่ถ่ายทำในประเทศเอง นายกฯ โพสต์กล่าวไว้ว่า “เรากำลังศึกษา Cash Rebate สำหรับกองถ่ายไทยด้วยเช่นกัน และจะผลักดันมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำด้านอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวก ลดอุปสรรค พร้อมทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เข้มแข็งต่อไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ฯ จะทำงานอย่างเต็มที่”

ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทภาพยนตร์ทั้ง 7 บริษัท ที่ได้ร่วมพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ในงานเลี้ยงรับรอง ได้แก่

  1. นายชาร์ลส์ เอช. ริฟกิน (Charles H. Rivkin) ประธานและ CEO สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ
  2. นางสาว แคธลีน ทาฟฟ์ (Cathleen Taff) ประธานฝ่ายจัดจําหน่าย, แฟรนไชส์ และการวิเคราะห์ผู้ชม, บริษัท Walt Disney
  3. นายเจย์ โรว์ (Jay Roewe) รองประธานอาวุโสฝ่ายการวางแผนการผลิตและสิ่งจูงใจ บริษัท HBO/HBO MAX และ Warner Bros. Pictures
  4. นายเวอร์นอน แซนเดอร์ส (Vernon Sanders) หัวหน้าฝ่ายโทรทัศน์บริษัท Amazon/MGM Studios
  5. นายคริส มิลเลอร์ (Chris Miller) ที่ปรึกษาทั่วไป บริษัท NBCUniversal Studio Group
  6. นายเดวิด ไฮแมน (David Hyman) หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย บริษัท Netflix Studios
  7. นางสาวจิล แรตเนอร์ (Jill Ratner) ที่ปรึกษาทั่วไป บริษัท Sony Pictures Entertainment
  8. นางสาวแชรอน คีย์เซอร์(Sharon Keyser) รองประธานอาวุโสฝ่ายความสัมพันธ์กับรัฐบาลและการวางแผนบริษัท Paramount Pictures Corporation

Tags: film