“สงกรานต์ไทย” ได้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้อย่างเป็นทางการแล้ว รัฐบาลจะทำอะไรต่อ?
ยูเนสโก (UNESCO) มอบประกาศนียบัตรรับรองประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย (Songkran in Thailand) เป็นมรดกภูมิปัญญาอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ได้ขึ้นทะเบียนให้ “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” ที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (the Intangible Cultural Heritage of Humanity) ต่อจาก โขน นวดไทย และโนรา
ถือเป็นจังหวะอันดีที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ผนึกกำลังเตรียมจัดงานมหาสงกรานต์ “World Songkran Festival” เพื่อดันเทศกาล “สงกรานต์ไทย” ให้กลายเป็น “เทศกาลระดับโลก” เหมือนเทศกาล Oktoberfest ของเยอรมนี และเทศกาล Carnival ของบราซิล โดยมีการวางแผนจัดฉลองทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร ตลอดเดือนเมษายน 2567
“World Songkran Festival” เป็นหนึ่งในเทศกาลของไทยที่มีศักยภาพสามารถยกระดับให้ประเทศไทยกลายเป็น “เมืองแห่งเทศกาลโลก” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้รัฐบาลยังมีแผนที่จะจัดงานเทศกาลอื่นๆ ทั้งเทศกาลตามประเพณีไทยและเทศกาลใหม่ ๆ รวมถึงดึงเทศกาลระดับโลกมาจัดในประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองแห่งเทศกาลโลกตามเป้าหมายให้ได้
เราต้องการให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่ไม่ว่าจะใครในโลกนี้มาถึงแล้วรู้สึกสนุกสนาน เราอยากให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่ไม่ว่าใครจะขัดแย้งกับใครในโลกก็สบายใจที่ได้มาเยือน เรามีอาหารเลิศรสให้รับประทาน มีสถานที่สวย ๆ ให้พักผ่อน มีเทศกาลจำนวนมากให้ร่วมสนุกและตื่นตาตื่นใจ
ความสบายใจเหล่านี้จะกลายมาเป็นเม็ดเงินมหาศาลที่จะหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยของเรา